วันอังคารที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2553

โรคหอบหืด และการวินิจฉัย

โรคหอบหืด เป็นโรคที่เป็นกันมาก และต้องเผชิญไปตลอดชีวิต รุนแรงบ้างไม่รุนแรงบ้างแต่ก็รบกวนการใช้ชีวิตปกติมากพอสมควร แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเราเป็นโรคหอบหืดหรือไม่

อาการของผู้ป่วยโรคหอบหืดขณะที่จับหืดคือ หายใจถี่ หอบเหนื่อย มีอาการแน่นหน้าอก มักมีเสียงหายใจดังหวีด เป็นๆหายๆ โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน แต่ในกรณีที่มีอาการมากอาจมีอาการหอบหืดกำเริบทุกคืน เมื่อมีอาการกำเริบอาจบรรเทาได้ด้วยยาขยายหลอดลมชนิดพ่นหรือรับประทาน และโรคจะีมีการดำเนินไปที่เลวร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ มักต้องใช้ยาบ่อยขึ้นและมากขึ้น มีการเพิ่มชนิดของยาที่จำเป็นต้องใช้ สำหรับอาการที่ไม่รุนแรง โรคหอบหืดอาจแสดงอาการเพียงเล็กน้อย เช่น อาการไอมากในเวลากลางคืน หรือไอเรื้อรังโดยไม่พบเสียงหวีดหรืออาการแน่นหน้าอกก็ได้ทำให้เราไม่รู้ตัวว่าเรามีอาการของโรคหอบหืดอยู่และการวินิจฉัยก็ทำได้ยากขึ้น หรืออาจมีอาการแน่นหน้าอกเฉพาะช่วงออกกำลังกายหรืออกแรงมาก ที่ต้องใช้ออกซิเจนเยอะ และโรคหอบหืดมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับโรคภูมิแพ้ เพราะทำให้อาการกำเริบบ่อยและรุนแรงขึ้นมาก ซึ่งสามารถพบร่วมกันได้มากกว่าร้อยละ 70-80 ถ้าทำการรักษาอาการของโรคหอบหืดอย่างเดียวโดยไม่รักษาโรคภูมิแพ้ด้วย จะทำให้ผลการรักษาไม่ดีเท่าที่ควรหรือไม่ได้ผลเลย

การวินิจฉัยโรคหอบหืดที่ดีที่สุดคือการตรวจวัดสมรรถภาพปอด สามารถประเมินความรุนแรงของโรคเป็นลำดับขั้นเพื่อวางแผนการรักษาและการใช้ยาได้อีกด้วยแต่วิธีนี้ทำได้ค่อนข้างยากในผู้ป่วยเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 7 ปี วิธีง่ายหากไม่มีเครื่องมือระดับสูง อาจใช้เครื่องที่เรียกว่า peak flow meter ซึ่งมีราคาถูกกว่าและมีประโยชน์ในการประเมินอาการของโรคทดแทนได้ค่อนข้างมีประสิทธิภาพในกรณีที่ไม่สามารถตรวจสไปโรเมตรีย์ได้

PEFR = [ส่วนสูง (เซนติเมตร) ×5] -400 ลิตร/นาที

ถ้าคำนวณแล้วได้น้อยกว่าร้อยละ 80 ให้สงสัยว่ามีภาวะหลอดลมส่วนล่างอุดตัน จากนั้นให้ยาขยายหลอดลมแล้วเป่าซ้ำอีกครั้งภายใน 15 นาที หากได้เพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 12 แสดงว่าอาการของผู้ป่วยน่าจะมีการตอบสนองที่ดีต่อยาขยายหลอดลม (reversible airway obstruction) ซึ่งแสดงได้ว่าผุ้ป่วยเป็นโรคหอบหืด

ติดตามข้อมูลเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้และหอบหืดได้ ที่นี่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น